หุ้นบลูชิพ (Blue-chip) คำนี้มีที่มาจาก บ่อนการพนันในวงการพนันคาสิโน เหรียญฟ้าหรือ Blue-chip คือเหรียญที่มีมูลค่ามากที่สุด ราคาแพงที่สุด หากนำมาเปรียบเทียบกับหุ้นก็เหมือนกับหุ้นชั้นดีที่แข็งแกร่งมากๆนั่นเอง
หุ้น Blue-chip มีหลายความหมายหลายนิยามแต่จะมีจุดร่วมที่เหมือนกันได้แก่
- เป็นหุ้นบริษัทชั้นดี มั่นคง
- บริษัทเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง
- เป็นผู้นำตลาด
- มีความสามารถในการแข่งขันสูง
- สถานะทางการเงินมั่นคง
- เติบโตอย่างต่อเนื่อง
- รักษาผลกำไรได้ในทุกช่วงเศรษฐกิจ
- มีการปันผลอย่างสม่ำเสมอ
- ผู้บริหารมีหลักธรรมาภิบาล
- ส่วนใหญ่จะอยู่ใน SET 50
ตัวอย่างหุ้นบลูชิพในไทยเช่น PTT , SCC , CPF เป็นต้น
ข้อดีของการเข้าซื้อหุ้นบลูชิพคือเราไม่จำเป็นจะต้องนั่งเฝ้าหน้าจอหรือติดตามราคาตลาดตลอดเวลาเนื่องจากหุ้นบลูชิพส่วนใหญ่แล้วราคาจะมั่นคงไม่ค่อยขยับหวือหวามาก ถึงมีข่าวร้ายมีการเทขายจนราคาลงหนัก แต่หากหุ้นตัวนั้นยังคงมีพื้นฐานที่ดีราคามันก็จะย้อนกลับมาตามพื้นฐานอย่างแน่นอน
ฟังดูแล้วเป็นเหมือนเป็นหุ้นในฝันของนักลงทุนแนวเน้นคุณค่า (VI) เลยทีเดียว แต่ข้อเสียก็มีเช่นกัน
- ราคาหุ้นสูง เนื่องจากหุ้นดีคนต้องการเยอะราคาก็จะสูงตามหลัก Deman-Supply
- การสวิงราคาไม่ค่อยหวือหวาไม่เหมาะกับนักลงทุนแบบเก็งกำไร
สิ่งสำคัญสำหรับการเข้าซื้อหุ้นบลูชิพนั่นคือเราต้องมองมูลค่าที่แท้จริงให้ออก ไม่ใช่มองแต่ว่าหุ้นนี้ดีแล้วซื้ออย่างเดียวโดยไม่มองว่าราคานี้แพงเกินไปหรือเปล่าเพราะถึงแม้จะบอกว่าเป็นหุ้นดีเพียงใดหากซื้อผิดราคาก็ดอยยาวๆได้เหมือนกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น